วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อนาคตสิงห์บลูส์

อนาคตสิงห์บลูส์




หลังจากที่เฝ้ารอกันมานาน ในที่สุดความฝันที่จะเป็นเจ้ายุโรปของเชลซีก็กลายเป็นความจริงเสียที แต่ท่ามกลางความชื่นมื่นนั้น ก็ยังมีเรื่องราวที่สโมสรต้องสะสางให้เรียบร้อยโดยเร็ว


ทันทีที่ "สิงห์บลูส์" คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ด้วยการเฉือนชนะ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยการดวลจุดโทษเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น จุ๊ปป์ ไฮย์เกส โค้ช "เสือใต้" ก็ออกมาแนะให้ทีมคู่แข่งมอบสัญญาการคุมทีมถาวรให้กับ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ
ไม่ใช่แค่ ไฮย์เกส เท่านั้น แต่ทั้งนักเตะและแฟนบอลเชลซีเอง ต่างก็ต้องการเห็น ดิ มัตเตโอ ได้ทำหน้าที่ในระยะยาวมากกว่าจะเป็นแค่กุนซือขัดตาทัพ
จริงอยู่ที่โค้ชชาวอิตาเลียนอาจจะไม่ได้โพรไฟล์หรูหรามากนัก แต่ผลงานการพาทีมคว้าดับเบิลแชมป์บอลถ้วย ทั้งที่เพิ่งเข้ามาคุมทีมแทน อังเดร วิลลาส โบอาส ได้ไม่นาน ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เขาได้รับโอกาสในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไปในฤดูกาลหน้าหรืออีก 2 ปีเป็นอย่างน้อย
อย่างไรก็ตาม สโมสรก็ยังแทงกั๊กไม่ยอมออกมาฟันธงเสียทีว่าจะให้ ดิ มัตเตโอ คุมทีมต่อหรือไม่ ในขณะที่ ข่าวลือเรื่องการสรรหาผู้จัดการทีมคนใหม่ก็ยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด มีรายงานว่า แฮร์รี เรดแน็ปป์ นายใหญ่ของสเปอร์ส เป็นหนึ่งในเป้าหมายของโรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรชาวรัสเซียอยู่ด้วย
ไม่เพียงแค่ตำแหน่งกุนซือเท่านั้นที่ยังไม่มีความชัดเจน เพราะแม้กระทั่งอนาคตของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ที่เป็นฮีโร่ในนัดชิงที่อลิอันซ์ อารีนา ก็ยังไม่แน่นอนเช่นกัน
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดาวยิงจอมเก๋าชาวไอวอรี่โคสต์ เป็นกำลังสำคัญให้กับทีมมาตลอด จนกระทั่งซีซั่นนี้ที่เขาไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนเคย จนมีข่าวว่าเจ้าตัวจะอำลาสโมสรหลังหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้
แม้จะไม่สามารถลงเล่นเต็ม 90 นาทีได้ทุกนัดเนื่องด้วยอายุที่ปาเข้าไป 34 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังคงมีประโยชน์อย่างมากต่อทีม ที่สำคัญคือเป็นที่รักอย่างมากของแฟนบอลด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังพาทีมได้ถ้วยใบใหญ่ของยุโรปมาครองได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ทีมเจ้าบุญทุ่มของซูเปอร์ลีก จีน พยายามอย่างมากที่จะดึง ดร็อกบา มาช่วยล่าตาข่ายคู่กับ นิโกล่าส์ อเนลกา อดีตเพื่อนร่วมทีมให้ได้
อย่างไรก็ตาม ดูความน่าจะเป็นแล้วมีน้อยมาก เพราะหาก ดร็อกบา คิดจะอำลา "สิงห์บลูส์" จริง เขาก็น่าจะหันไปหาลีกที่น่าสนใจและท้าทายมากกว่าที่จะไปเล่นในแดนมังกร
ด้าน เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกชาวสแปนิช ก็แย้มว่าเขาอาจจะย้ายทีมหลังจากที่ผิดหวังหนักจากการถูกมองข้าม ไม่ให้ลงเป็นตัวจริงในนัดชิงกับบาเยิร์น เพราะ ดิ มัตเตโอ ดันเลือกเด็กดาวรุ่งอย่างไรอัน เบร์ทรานด์ แทนที่จะเป็นเขา
มีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์ยูโรและแชมป์โลกมาแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ ตอร์เรส จะรู้สึกเสียหน้าอย่างมากที่ถูกผู้เล่นที่ค่อนข้างจะโนเนมอย่างเบร์ทรานด์ เบียดคว้าตำแหน่งตัวจริงในเกมที่มีความหมายอย่างยิ่งเช่นนี้
แทนที่จะสงบปากสงบคำและชื่นชมยินดีกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของทีม ตอร์เรส กลับเลือกที่จะโจมตีสโมสรผ่านสื่อว่าเขาไม่ได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสม แถมยังถูกปฏิเสธไม่ให้เป็นผู้ยิงจุดโทษในช่วงดวลเป้าตัดสินด้วย ทั้งๆ ที่เขาเสนอตัวที่จะทำหน้าที่ดังกล่าว
ดิ มัตเตโอ ให้ ฆวน มาต้า, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ดาวิด หลุยส์, แอชลีย์ โคล และ ดร็อกบา เป็น 5 คนที่ต้องแบกรับความกดดันในการเผชิญหน้ากับ มานูเอล นอยเออร์ และมีเพียง มาต้า เท่านั้นที่ยิงไปติดเซฟของนายทวารเสือใต้ ก่อนที่ ดร็อกบา จะเป็นฮีโร่ยิงคนสุดท้ายและพาทีมได้เฮในที่สุด
นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,500 ล้านบาท) ตอร์เรส ก็ไม่สามารถที่จะเรียกฟอร์มเก่งเหมือนสมัยที่อยู่กับแอตเลติโก มาดริด และลิเวอร์พูลได้เลย และด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมนักกับการออกมาโวยวายต้น สังกัด
แม้ว่าจะได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก มาครองแล้ว แต่ดูเหมือนว่า เชลซี ก็ยังคงต้องการการเสริมทัพปรับแต่งทีมกันอยู่ไม่น้อย เพราะตัวหลักหลายคนในทีมก็เริ่มอยู่ในช่วงปลายการค้าแข้ง ทั้ง ดร็อกบา, แลมพาร์ด และ จอห์น เทอร์รี ที่โชคร้ายได้เป็นแค่ผู้ชมเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ไม่เพียงแต่ต้องมองไกลไปถึงการป้องกันแชมป์ยุโรปเท่านั้น แต่ "สิงห์บลูส์" ยังต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะกลับมาผงาดในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งด้วย หลังจากที่ฤดูกาลนี้หมดลุ้นไปตั้งแต่ไก่โห่ (สงสัยงานนี้คงต้องโทษ โบอาส !)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น